🕍 ถ้าอยู่เกาหลี แล้วนึกอยากหาสถานที่เที่ยวแนวอเมริกันสไตล์ ผมจะขอแนะนำสถานที่แห่งนี้เลยครับ สถานที่ที่มีกลิ่นอายความเป็นอเมริกัน เป็นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่น่าสนใจเลยทีเดียว ที่นี่ก็คือ “Dongsan Cheongna Hill”
🕍 Dongsan Cheongna Hill (동산청라언덕) หรือเรียกแบบง่ายๆว่า ชองนา ฮิลล์ เป็นสถานที่ที่อยู่อาศัย ของมิชชันนารีคริสเตียนในช่วงศตวรรษที่ 20 บริเวณโดยรอบ จะมีต้นไอวี่อยู่เป็นจำนวนมาก โดยชองนา ฮิลล์นี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ Daegu’s Street Tour Course 2 อีกด้วย ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ โดยรอบหลายจุด ได้แก่ บ้านมิชชั่นนารี แบลร์ สวิทเซอร์ และชามเนส บันได 90 ขั้น ถนนแห่งอิสรภาพ 3.1 ต้นแอปเปิ้ลตะวันตกแห่งแรกของแทกู สุสานของเหล่ามิชชั่นนารี เป็นต้น
🕍 ในชองนา ฮิลล์นั้นเราจะสามารถพบเห็น สถาปัตยกรรมแบบอเมริกัน ในช่วงยุค 1900 ที่ ได้จากอาคารต่างๆ อย่างเช่น เหล่าบ้านเรือน ของมิชชั่นนารีอเมริกัน ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเกาหลี ในช่วงประมาณ ค.ศ.1910 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการ เข้ามาเผยแผ่ศาสนาในเกาหลี ซึ่งแต่เดิมจะมีอยู่ 11 หลังคาเรือน แต่ในปัจจุบันเหลือเพียง 3 หลังคาเรือนเท่านั้น ได้แก่ House of Missionary Blair , House of Missionary Switzer’s และ House of Missionary Chamness โดยลักษณะเฉพาะอันโดดเด่นของอาคารแบบอเมริกันในยุคนั้น คือเป็นอาคารอิฐสีแดง มีปล่องควันอยู่สูงเหนือหลังคา พื้นด้านในทำจากไม้ ซึ่งทั้งสามหลังนั้น ถือเป็นสมบัติอันล้ำค่าของประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของเกาหลี และปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์มิชชั่นนารี พิพิธภัณฑ์ทางการแพทย์ ให้ผู้ที่สนใจได้เข้าเยี่ยมชมในเรื่องของยา และประวัติศาสตร์ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา
🕍 ซึ่งหลังจากมีการลงนาม ในสนธิสัญญาไมตรีและการค้ากับสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.1882 เหล่ามิชชั่นนารีอเมริกัน ได้เดินทางเข้าสู่คาบสมุทรเกาหลี กันอย่างมากมาย โดยเหล่ามิชชั่นนารีที่มายังเมืองแทกูนั้น เดินทางผ่านทางท่าเรือปูซาน และมาสิ้นสุดที่บริเวณเนินเขาชองนา ซึ่งแต่เดิมนั้น เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยจากอำนาจเผด็จการต่างๆ ทำให้คนต่างชาติสามารถสร้างบ้านในบริเวณแห่งนี้ได้ ซึ่งคำว่าชองนา (청라) นั้นมาจากชื่อพันธุ์ไม้เลื่อยที่ขึ้นอยู่เต็มเนินเขาแห่งนี้
🕍 อย่างเช่น House of Missionary Blair นั้นถือเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของแทกูหมายเลข 26 สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1910 เป็นบ้านของมิชชั่นนารีแบลร์ ที่เดินทางมายังคาบสมุทรเกาหลีในปี ค.ศ.1901 มีลักษณะเป็นบ้านสองชั้นทำจากอิฐสีแดง มีปล่องไฟยกสูงขึ้นเหนือตัวบ้าน บริเวณชั้นสองมีหน้าต่างกระจกรูปครึ่งวงกลมบานใหญ่ ถือเป็นบ้านที่มีการก่อสร้างที่ค่อนข้างทันสมัยเป็นอย่างมาก ปัจจุบันบ้านของแบลร์หลังนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ด้านการศึกษาและประวัติศาสตร์
🕍 ถัดมาจากบ้านของแบลร์คือ House of Missionary Chamness เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของแทกูหมายเลข 25 เป็นบ้านพักของมิชชั่นนารีชามเนส ครูใหญ่ของโรงเรียนที่ก่อตั้งโดยโบสถ์เพรสไบทีเรียนในอเมริกา (ปัจจุบันคือโรงเรียนมัธยมคเยซอง) อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้ มีลักษณะเป็นบ้านสไตล์บังกะโล สไตล์ยอดนิยมในแคลิฟอร์เนียสมัยนั้น ตัวอาคารอิฐสีแดงหลังคาหน้าจั่วกับอาคารสีขาวหลังคาเรียบ ปัจจุบันบ้านหลังนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ทางการแพทย์
🕍 สุดท้ายคือ House of Missionary Switzer’s มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของแทกูหมายเลข 24 เป็นบ้านพักที่มีความผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมเกาหลีกับวัฒนธรรมตะวันตกอยู่พอสมควร บริเวณบ้านจะเห็นต้นแอปเปิ้ลต้นแรกของเมืองแทกูที่มิชชั่นนารีนำมาปลูก รวมถึงหอระฆังฉลองครบรอบ 100 ปีการเปิดศูนย์การแพทย์ตงซาน ปัจจุบันบ้านหลังนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์มิชชันนารี
📍 56, Dalseong-ro, Jung-gu, Daegu
📍 대구광역시 중구 달구벌대로 2029 (동산동)
#TraveltoKoreaBeginsAgain #Daegu #Pohang #Gyeongju #LoveKorea #KTOThailand #ImagineYourKorea #ilovegyeongbuk #gyeongsangbukdothailand #DongsanCheongnaHill #청라언덕
ติดตาม เกาหลี Everyday เพิ่มเติมได้ที่ทาง
Facebook: https://www.facebook.com/KaoleeEveryday
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCc3IEnjwoCG0YgQ0QbjzDHQ
