หัวข้อ
พิพิธภัณฑ์เรือนจำซอแดมุน Seodaemun Prison History Hall สถานที่สะท้อนถึงเรื่องราวในอดีตของคนเกาหลีที่มีต่อญี่ปุ่นในอดีต
ห่างหายจากการเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่เที่ยวในเกาหลีแบบยาวๆไปนานเลย ช่วงนี้จะเริ่มกลับมาเขียนอีกครั้งแล้วล่ะ ฝากติดตามด้วยนะครับ
วันนี้จะมาแนะนำสถานที่เที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ฮอตฮิตเอามากๆเลยนะสำหรับนักท่องเที่ยว สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นแค่เพียงสถานที่ท่องเที่ยว แต่เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งความเจ็บปวดของชาวเกาหลีที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นเลยทีเดียว สถานที่แห่งนี้คือ “พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เรือนจำซอแดมุน”
Seodaemun Prison History Hall (서대문형무소역사관) หรือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เรือนจำซอแดมุน ตั้งอยู่ในเขตซอแดมุนในกรุงโซล แต่เดิมมีชื่อว่า เรือนจำคยองซอง ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับใช้ในการคุมขังนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิและเสรีภาพต่างๆของเกาหลี ในช่วงยุคอาณานิคมของญี่ปุ่น ซึ่งรู้จักกันในชื่อ “เรือนจำเคอิโจ” (ตามการออกเสียงแบบภาษาญี่ปุ่นของเรือนจำคยองซอง) ต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นเรือนจำซอแดมุน และมีการเปลี่ยนชื่ออยู่หลายต่อหลายครั้งในเวลาถัดมา จนกระทั่งกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เรือนจำซอแดมุนในปัจจุบัน ซึ่งใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการการต่อสู้เพื่อสิทธิ เสรีภาพ และความเป็นประชาธิปไตยในอดีตที่ผ่านมาของเกาหลี
เรือนจำคยองซองนั้นถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในช่วงต้นปี ค.ศ.1907 และได้เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ.1908 โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการคุมขังนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิและเสรีภาพของเกาหลีในช่วงยุคล่าอาณานิคมของญี่ปุ่น โดยเรือนจำคยองซองในช่วงแรกสร้างเป็นอาคารไม้ขนาด 560 พยอง (1 พยอง เท่ากับ 3.3058 ตารางเมตร) ซึ่งสามารถกักขังนักโทษได้ประมาณ 500 คน ซึ่งภายในเรือนจำนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกแยกต่างหากสำหรับนักโทษผู้หญิงรวมถึงเด็กสาวอีกด้วย
อีก 4 ปีถัดมา วันที่ 3 กันยายน ค.ศ.1912 เรือนจำคยองซองได้เปลี่ยนชื่อเป็นเรือนจำซอแดมุน เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวมีนักโทษเพิ่มจำนวนมากขึ้นจนเรือนจำคยองซองไม่สามารถรับนักโทษเพิ่มได้ จึงได้มีการสร้างเรือนจำคยองซองเพิ่มอีกหนึ่งแห่งในเขตมาโป ทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อเป็นเรือนจำซอแดมุนเพื่อป้องกันการสับสน
ต่อมาในปี ค.ศ.1919 หลังจากเกิดเหตุการณ์ 3.1 ที่มีชาวเกาหลีจำนวนมากออกมาเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพกับทางการญี่ปุ่น ทำให้ต้องถูกจับตัวและคุมขังในเรือนจำแห่งนี้เป็นจำนวนมากกว่า 3,000 คน ต่อเนื่องมาจนกระทั่งก่อนช่วงสิ้นสุดการล่าอาณานิคมของญี่ปุ่นในปี ค.ศ.1945 จำนวนนักโทษในเรือนจำแห่งนี้อยู่ที่ 2,980 คน โดยหนึ่งในบรรดานักเคลื่อนไหวที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งอย่าง “ยูกวานซุน” ก็เสียชีวิตจากการถูกทรมานในเรือนจำแห่งนี้
หลังจากสิ้นสุดยุคอาณานิคมของญี่ปุ่นในปี ค.ศ.1945 เรือนจำแห่งนี้ได้ถูกควบคุมโดยรัฐบาลเกาหลีใต้และได้เปลี่ยนชื่อเป็น “เรือนจำโซล” เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ.1945 จนกระทั่งเปลี่ยนชื่อเป็น “กรมราชทัณฑ์กรุงโซล” เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ.1961 เรื่อยมาจนถึงปี ค.ศ.1967 และได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ศูนย์กักกันกรุงโซล”
จนกระทั่งวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ.1987 ศูนย์กักกันกรุงโซลได้ย้ายที่ตั้งไปอยู่ที่เมืองอึยวัง จังหวัดคยองกี ทำให้ในปีต่อมา วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1988 สถานที่แห่งนี้ได้ถูกกำหนดให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติ (ฉบับที่ 324) จนกระทั่งเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เรือนจำซอแดมุนมาจนถึงปัจจุบัน
โดยพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เรือนจำซอแดมุนนั้นปัจจุบันถือเป็นส่วนหนึ่งของ “สวนอิสรภาพซอแดมุน” (Seodaemun Independence Park) ที่ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ.1992 เพื่อเป็นการรำลึกถึงนักเคลื่อนไหวทางสิทธิและเสรีภาพชาวเกาหลีที่ถูกทรมานอยู่ในคุก มีอาคาร 7 หลังได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ และได้กลายเป็นสถานที่สำคัญสำหรับให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของประเทศ
ติดตาม เกาหลี Everyday เพิ่มเติมได้ที่ทาง
Facebook: https://www.facebook.com/KaoleeEveryday
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCc3IEnjwoCG0YgQ0QbjzDHQ