หัวข้อ
ลงทะเบียน KETA (K-ETA) ทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ใช้เวลาไม่นาน ก็สมัครได้แล้ว จะมีขั้นตอนอย่างไร ไปดูพร้อม ๆ กันทีละขั้นตอนเลย
สวัสดีเพื่อนๆทุกคนครับ หลายๆคนที่อยากจะไปเที่ยวเกาหลี แน่นอนว่าตอนนี้ด่านแรกคือต้องทำการลงทะเบียน KETA (K-ETA) ให้เรียบร้อยเสียก่อนถึงจะสามารถไปยังสเตปต่อไปได้นะครับ แต่หลายๆคนก็น่าจะมีปัญหากับการลงทะเบียนตรงนี้พอสมควร เพราะฉะนั้นวันนี้ผมจะขอมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวในการลงทะเบียนในแบบฉบับของผมเองนะครับ ขอบอกว่า ง่ายและไม่ยุ่งยากแน่นอนครับ
การ ลงทะเบียน KETA นี้สามารถทำได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ ลงทะเบียนบนเว็บไซต์ https://www.k-eta.go.kr/ ** ย้ำว่าต้องเว็บไซต์นี้เท่านั้นนะครับ เพราะมีหลายๆคนเข้าไปผิดเว็บ ซึ่งก็จะเป็นเว็บที่ลงทะเบียนที่ไม่ใช่ของทางเกาหลีที่แท้จริง สังเกตได้ง่ายๆคือ ค่าลงทะเบียนจริงๆแล้วเพียง 10,000 วอน (ประมาณ 300 บาท) เท่านั้น ถ้าเกิดว่าเกินกว่านี้คือเว็บปลอมนะครับ กับอีกหนึ่งช่องทางคือลงทะเบียนผ่าน Application ซึ่งในบทความนี้จะแนะนำการลงทะเบียนผ่าน App นะครับ เนื่องจากเป็นวิธีที่ผมใช้งานเอง และรู้สึกว่าจะง่ายกว่าการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ รวมถึง เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายสำหรับหลายๆคนครับ
เพื่อนๆสามารถโหลดแอปนี้ได้ทั้ง iOS และ Androids เลยนะครับ หน้าตาจะเหมือนกัน พอกดเข้าไปในแอปแล้วหน้าตาก็จะเป็นประมาณนี้ ซึ่งระบบสามารถแสดงผลได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลี ถ้าใครเปิดเข้าไปในแอปแล้วเป็นภาษาเกาหลีก็ไม่ต้องตกใจไปครับ สามารถเปลี่ยนภาษาได้ที่มุมด้านซ้ายบน เลือกเป็นภาษาอังกฤษแทนครับ ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มลงทะเบียน KETA กันได้เลย โดยกดไปที่ “Apply for K-ETA” ครับ
ขั้นตอนการ ลงทะเบียน
พอกดเข้ามาหน้าแรกแล้วก็จะเจอหน้าตาแบบนี้นะครับ อันดับแรกเลยคือให้เลือกภูมิภาครวมถึงประเทศของเรา ก็ให้เลือกเป็น “ASIA-PACIFIC” และ “THAILAND” ตามภาพเลยครับ
ต่อมาก็จะเป็นการชี้แจงเกี่ยวกับข้อตกลงต่างๆรวมถึงการใช้งานข้อมูลเพื่อการสมัคร ซึ่งก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก อ่านแล้วกด “Agree” ได้ทุกอันเลยครับ หากเรียบร้อยแล้วก็กดปุ่ม “Next” สีน้ำเงินนั้นได้เลย
ถัดมานี้ก็จะเป็นการกรอกข้อมูลพาสปอร์ต รวมถึงอีเมลที่ใช้ในการรับข้อมูลการสมัคร ซึ่งในส่วนตรงนี้จะขอแนะนำว่า ก่อนสมัครให้ดูวันหมดอายุของพาสปอร์ตก่อนนะครับ อย่างน้อยๆเลยก็ขอให้เหลืออายุการใช้งานมากกว่า 2 ปี 6 เดือน เนื่องจากว่าที่เราสมัครอยู่นี้จะมีอายุการใช้งาน 2 ปี หากพาสปอร์ตเราเหลืออายุการใช้งานต่ำกว่า 2 ปี 6 เดือน เวลาพาสปอร์ตหมดอายุก่อน แล้วทำพาสปอร์ตมาใหม่ ก็อาจจะต้องมาสมัครเคอีทีเอใหม่อีกครั้ง ซึ่งค่อนข้างซ้ำซ้อนกัน แต่ถ้าคิดว่าจะไม่ได้เดินทางไปเกาหลีใต้บ่อยๆ ก็ไม่ต้องคิดมากครับสมัครไปได้เลย (แต่อย่างน้อยๆก็ต้องเหลืออายุมากกว่า 6 เดือนนะ ไม่งั้นเข้าเกาหลีใต้ไม่ได้ครับ)
ตรงส่วนนี้ก็ไม่มีอะไรมาก แค่กรอกเลขพาสปอร์ตและอีเมลให้ถูกต้องครบถ้วน ** ตรงนี้ควรตรวจเช็คให้ดี อย่ากรอกผิดเป็นอันขาดทั้งสองส่วนนะครับ
ต่อมาจะเป็นส่วนของการสแกนพาสปอร์ตครับ สำหรับการใช้งานในมือถือค่อนข้างทำได้ง่ายมากๆ เพียงแค่เราเตรียมหน้าพาสปอร์ตมา จากนั้นกด “Add file” จากนั้นตัวแอปจะเปิดกล้องให้เราเอาพาสปอร์ตวางลงในกรอบเพื่อทำการสแกนข้อมูล
ให้เราทำการสแกนพาสปอร์ตจนระบบขึ้นกล่องข้อความตามภาพ ก็แสดงว่าระบบสแกนเสร็จสิ้นแล้ว ให้กด Close ปิดไปได้เลย และเราก็จะเห็นข้อมูลต่างๆของพาสปอร์ตเราได้ถูกกรอกเข้าฟิลด์ต่างๆเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็สามารถกด Next ต่อไปได้เลย
ขั้นตอนต่อมาก็จะเป็นข้อมูลต่างๆของเรา ไล่จากบนลงมาก็ได้แก่ การถามว่าเรามีสัญชาติอื่นๆหรือไม่ (ตรงนี้ผมตอบ No ตามภาพ) จากนั้นให้ใส่หมายเลขโทรศัพท์มือถือของเราลงไป ต่อมาก็ถามว่า เราเคยไปเกาหลีใต้มาก่อนหรือไม่ รวมถึงจุดประสงค์ของการเดินทางเข้าเกาหลีใต้ ในส่วนต่างๆตรงนี้ก็สามารถตอบไปตามความเป็นจริงได้เลย
ในส่วนนี้คือการกรอกข้อมูลสถานที่พักในเกาหลีของเรา โดยให้เรากดเข้าไปที่ “Find Postal Code” เพื่อค้นหารหัสไปรษณีย์ของโรงแรม
หลังจากกดเข้ามาแล้ว อันดับแรกเลยคือ ถ้าเรามีที่พักในเกาหลีที่เราจองไว้แล้ว หรือตั้งใจว่าจะจองเพื่อไปพัก ให้เราทำการค้นหา Address ของโรงแรมเป็นภาษาอังกฤษไว้ และหลังจากนั้นให้ copy ชื่อถนน แล้วมาวางที่ช่อง Road name address ด้านล่าง
อย่างในภาพ ที่พักผมอยู่ถนนชื่อว่า “Palhyeon-gil” (สังเกตง่ายๆว่าตรงไหนคือส่วนของถนน ส่วนนั้นจะต่อท้ายด้วย -gil ซึ่งในภาษาเกาหลีแปลว่าถนน) ผมก็ก๊อปปี้ Palhyeon-gil มาวางช่อง Road name address จากนั้นกดค้นหาด้านขวา ซึ่งระบบก็จะแสดงผลเป็น Address ต่างๆมากมาย ให้เรากดเลือกอันที่ตรงกับของโรงแรมเรา เท่านี้ก็เรียบร้อย
ถัดมาระบบถามถึงอาชีพของเรา ซึ่งก็สามารถเลือกกรอกได้ตามความเป็นจริงของแต่ละคนเลยนะครับ รวมถึงด้านล่างที่จะถามถึงประวัติการเป็นโรคต่างๆและประวัติอาชญากรรม ซึ่งถ้าใครไม่มีปัญหาตรงนี้ก็ติ๊ก No ได้ทั้งสองข้อเลย
ถัดมาในส่วนนี้เป็นส่วนของการเพิ่มรูปถ่ายของเราเข้าไปในระบบครับ ซึ่งจากภาพตัวอย่างระบบจะแจ้งให้ทราบว่า รูปแบบภาพคือต้องพื้นหลังขาว ไม่สวมหมวก ผ้าพันคอ หรือแว่นตาดำ และต้องเป็นภาพหน้าตรงเท่านั้น ซึ่งในส่วนตรงนี้เราสามารถกด Add File เข้าไปได้เลยครับ
หลังจากกด Add File เข้ามาแล้วจะเข้าสู่การสแกนใบหน้า ซึ่งเราสามารถสแกนใบหน้าของเรา ณ ปัจจุบันไปได้เลย เหมือนการถ่ายรูปปกติ เพียงแต่ข้อควรระวังคือต้องอยู่ในสภาพแสงสว่างเพียงพอ และมีพื้นหลังขาว ** ตรงนี้ถือเป็นข้อดีของการลงทะเบียนด้วย App ซึ่งไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดภาพตอนอัปโหลด ซึ่งโดยส่วนตัวผมถ่ายภาพตัวเองแบบปกติ ใส่เสื้อยืดคอกลมธรรมดา ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ หลังจากถ่ายภาพเรียบร้อยแล้วก็ Next ต่อไปได้เลยครับ
ถัดมาเป็นในส่วนของการกรอกข้อมูลอื่นๆ ได้แก่ ประเทศเกิด สถานที่เกิดในพาสปอร์ต วันที่เดินทางเข้าออกเกาหลี คนรู้จักในเกาหลี รวมถึงการเดินทางร่วมกับบุคคลอื่นหรือไม่ (ซึ่งในส่วนของคนรู้จักในเกาหลีและการเดินทางร่วมกับบุคคลอื่น ผมตอบ No ทั้งหมดครับ แม้จะมีเพื่อนเกาหลีหรือเดินทางกับคนอื่นในครอบครัวหรือเพื่อนก็ตาม)
มาถึงส่วนท้ายๆของการกรอกข้อมูลละครับ เขาก็จะถามเรื่องของการเดินทางเข้าประเทศอื่นๆก่อนจะเข้าเกาหลีมาหรือไม่ รวมถึงหน้าที่การงานของเรา ซึ่งถ้าหากเราทำงานบริษัทก็จะมีช่องให้ใส่ชื่อบริษัทรวมถึงเบอร์โทรศัพท์ของบริษัทด้วย (ตรงชื่อบริษัท ระบบจะไม่ยอมให้เราเว้นวรรคนะครับ สามารถพิมพ์ติดกันไปได้เลยครับ ส่วนตัวผมเองกรอกชื่อบริษัทเป็นชื่อย่อไม่กี่ตัวอักษร ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใดครับ) สุดท้ายก็เลือกรายได้ของเรา จากนั้นก็ Next ไปได้ครับ
หลังจากนี้ก็จะเป็นในส่วนของการตรวจสอบข้อมูลต่างๆที่เราได้กรอกมาทั้งหมดก่อนหน้านี้ ซึ่งถ้าหากตรวจสอบอีกรอบแล้วไม่มีปัญหาก็กดไปต่อได้เลย (หรือใครจะย้อนกลับไปแก้ไขก็ยังทันนะ)
จากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการจ่ายเงิน ซึ่งก็สามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตรเสมือนต่างๆได้เลยครับ ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียม 10,000 วอน ** ทั้งนี้การตัดเงินระบบจะตัดโดยทันทีที่เราสมัครนะครับ ไม่ว่าจะอนุมัติหรือไม่ก็จะเสียเงินตรงนี้ไปเลยครับ ซึ่งค่าธรรมเนียมจะคิดเป็นเงินบาทตามเรทเงินปัจจุบันที่ลงทะเบียนครับ
หลังจากทำทุกขั้นตอนเสร็จเรียบร้อยแล้วระบบจะส่งอีเมลเข้ามายังอีเมลที่เราลงทะเบียนไว้ตอนแรก จากนั้นก็รอครับ รออย่างเดียว ใช้ระยะเวลาในการรอเพื่ออนุมัติประมาณ 7 วัน ** ทั้งนี้บางคนเพียง 30 นาทีก็อนุมัติแล้ว แต่ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นจะอยู่ในช่วง 3-7 วัน ส่วนของผมเองคือ 3 วันทำการ ไม่นับเสาร์อาทิตย์ ถึงจะอนุมัติครับ
และนี่ก็คือขั้นตอนทั้งหมดในการกรอกข้อมูลลงทะเบียน K-ETA ครับ ซึ่งก็จะเห็นว่าไม่ยากจนเกินไป เพียงแต่ต้องเตรียมข้อมูลต่างๆให้พร้อมก่อนเริ่มมาลงทะเบียน ไม่ว่าจะเป็นพาสปอร์ต รวมถึงข้อมูลที่พักในเกาหลี ซึ่งถ้าเตรียมทุกๆอย่างที่กล่าวมาพร้อม จะใช้ระยะเวลาเพียงไม่นานครับ
สุดท้ายนี้ก็ขอให้ทุกคนลงทะเบียนผ่านกันทุกๆคนเลยนะครับ และหากติดปัญหาตรงไหนสามารถทักมาสอบถามได้ใน Inbox Facebook Fanpage ได้ตลอดเวลาครับ
ติดตาม เกาหลี Everyday เพิ่มเติมได้ที่ทาง
Facebook: https://www.facebook.com/KaoleeEveryday
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCc3IEnjwoCG0YgQ0QbjzDHQ
กรณีลงทะเบียนไม่ผ่านจะต้องทำยังไงครับ
คือตอนนี้ผมลงทะเบียนแล้วแต่ไม่ผ่าน ครับ
ถ้าลงแล้วไม่ผ่าน สามารถลงใหม่ได้ครับ แต่ถ้าลงครบสามครั้งแล้วไม่ผ่าน ต้องรอ 6 เดือนนับตั้งแต่วันลงทะเบียนครั้งแรกครับ
สวัสดีค่ะ สอบถามค่ะ กรณีไม่ผ่าน
1. ลงใหม่ได้เลยมั้ยคะ หรือต้องรอระยะเวลา ไปอ่านบางคนบอกให้ไปยื่นสถานฑูตเลย จริงมั้ยคะ
2. ถ้าทำพาสใหม่ เลขไม่ตรงกัน ลงทะเบียนใหม่ จะเป็นอะไรมั้ยคะ
3.จ่ายเนื่องจากเค้ามีทำศัลยกรรมจมูก ต้องทำพาสใหม่มั้ยคะ
ขอบคุณค่ะ
1. จริงๆแล้วลงใหม่ได้เลยหลังจากรู้ว่าไม่ผ่านครับ ลงได้ 3 ครั้งในระยะเวลา 6 เดือน แต่หลายคนเลือกที่จะไปยื่นวีซ่าที่สถานทูตเลยก็ได้เหมือนกันครับ
2. ไม่เป็นไรครับ เลขพาสปอร์ตเปลี่ยนก็ทำใหม่ลงใหม่ครับ
3. หมายถึงว่าหน้าเปลี่ยนจากหน้าพาสปอร์ตใช่ไหมครับ จริงๆ แล้วก็ไม่จำเป็นครับ เพราะลายนิ้วมือหรือข้อมูลไม่ได้เปลี่ยนครับ
Here’s why you should hire a professional electrical contractor for any ceiling and exhaust fan installation needs
Dealing with this kind of electrical work on your own can be dangerous. Even though it may seem cost-effective, it’s best to trust a certified technician to get the job done right.
Professional electricians have the skills and training needed to diagnose code violations that homeowners may not notice. Working with an expert means the repair is completed safely and follows all local codes.
In the end, it’s the safest bet to hire a licensed technician for your electrical project. You’ll gain long-term reliability and avoid future problems.
[url=https://danmatthewselectric.com/]home electrical services like breakers, light switches, power outlets, and GFCI outlets replacement[/url]
[url=http://legalhubpartnership.com/]Protect your home: The importance of a qualified electrician for emergency switch panel service[/url] 1ba7a73