หัวข้อ
ฮัลลาซาน Hallasan อุทยานแห่งชาติแห่งเกาะเชจู ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเกาะเชจูที่ทุกคนที่มาที่นี่ต้องรู้จักหรือเคยได้ยินกันมาบ้างอย่างแน่นอน
ถ้าหากว่าพูดถึงเกาะเชจูแล้วนั้น หลายคนคงนึกถึงภาพของเกาะที่มีภูเขาสูงอยู่ตรงใจกลางของเกาะกันอย่างที่เราเห็นกันบ่อยๆในภาพ ซึ่งในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับภูเขาสูงลูกนั้นที่ตั้งอยู่ใจกลางเกาะเชจูซักหน่อยครับ ภูเขาลูกนั้นมีชื่อว่า “ฮัลลา-ซาน” Halla-san
“Hallasan” ฮัลลา-ซาน หรือ ภูเขาฮัลลา เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ใจกลางของเกาะเชจู เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ นอกจากนี้ฮัลลา-ซานยังถือเป็นภูเขาที่มีความสูงมากที่สุดในเกาหลี (1,947 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) เป็นอุทยานแห่งชาติอีกแห่งหนึ่งของเกาหลีที่ได้ถูกกำหนดขึ้นในปี ค.ศ.1970 เป็นอุทยานแห่งชาติที่ขึ้นชื่อในเรื่องของระบบนิเวศวิทยาที่มีอยู่หลากหลายตามสภาพอากาศบริเวณไหล่เขา โดยมีการระบุว่ามีพืชกว่า 1,800 ชนิด สายพันธ์แมลงอีกกว่า 3,300 สายพันธุ์ (หากรวมกับสัตว์ต่างๆจะมีมากถึง 4,000 สายพันธ์) เลยทีเดียว
ฮัลลา-ซานเป็นภูเขาไฟแบบโล่ที่เป็นเสมือนโล่ขนาดใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นเป็นกลุ่มบนเกาะเชจู โดยมักถูกมองว่าเป็นเหมือนตัวแทนของเกาะเชจู ดังที่มีคำภาษาเกาหลีโบราณได้กล่าวไว้ว่า “เกาะเชจูคือฮัลลา-ซาน และฮัลลา-ซานก็คือเกาะเชจู” โดยฮัลลา-ซานนี้สามารถมองเห็นได้จากทุกพื้นที่บนเกาะเชจู แต่บริเวณยอดเขามักถูกปกคลุมไปด้วยเมฆ ฮัลลา-ซานถูกกำหนดให้เป็นอนุสาวรีย์ทางธรรมชาติของเกาหลีหมายเลข 182
โดยฮัลลา-ซานนั้นเริ่มต้นขึ้นในยุค Pliocene ได้เกิดการปะทุของหินบะซอลต์ หินอัคนีและลาวาในบริเวณไหล่ทวีปที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 100 เมตร และได้สร้างเกาะที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเล ปัจจุบันมีความสูงกว่า 1,950 เมตร ปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 400 เมตร โดยฮัลลา-ซานปัจจุบันยังถือเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ และสามารถระเบิดได้ตลอดเวลา ดังนั้นองค์กรระหว่างประเทศจึงเฝ้าจับตามองภูเขาลูกนี้อยู่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยการปะทุของภูเขาไฟครั้งล่าสุดมีบันทึกไว้ว่าเกิดขึ้นในช่วงประมาณ 1,000 ปีที่แล้วนี้เองในสมัยราชวงศ์โครยอ
บริเวณปากปล่องภูเขาฮัลลา-ซานนั้นมีทะเลสาบที่เรียกว่า “แพงนกดำ” (백록담) ซึ่งเกิดจากการยุบตัวของยอดสันเขา โดยทะเลสาบแห่งนี้มีเส้นรอบวงถึง 2 กิโลเมตร และมีความลึกสูงสุดอยู่ที่ 100 เมตรขึ้นอยู่กับฤดูกาล
ฮัลลา-ซานเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับชาวเกาหลีและชาวต่างชาติ ด้วยความที่เราสามารถจะมาเดินขึ้นเขาพร้อมชื่นชมตามธรรมชาติในอุทยานแห่งชาตินี้ได้ มีเส้นทางการเดินขึ้นเขาทั้งหมด 7 เส้นทาง ซึ่งมีความสั้นยาวแตกต่างกันออกไป โดยเส้นทางทั้งหมดมีดังนี้
Eorimok Trail ระยะทาง 6.8 กิโลเมตร
Yeongsil Trai] ระยะทาง 5.8 กิโลเมตร
Gwaneumsa Temple Trail ระยะทาง 8.7 กิโลเมตร
Seongpanak Trail ระยะทาง 9.6 กิโลเมตร
Donnaeko Trail ระยะทาง 7 กิโลเมตร
Eoseungsaengak Trail ระยะทาง 1.3 กิโลเมตร
Seokguram Trail ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร
โดยเส้นทางทั้งหมดนี้จะมีเพียงแค่ Gwaneumsa Temple Trail และ Seongpanak Trail เท่านั้นที่จะพาขึ้นไปถึงยอดเขาบริเวณ แพงนกดำ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมงในการเดิน ส่วนเส้นทางอื่นๆจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ยกเว้น Eoseungsaengak Trail กับ Seokguram Trail ที่มีระยะทางสั้นมาก สามารถเดินได้โดยใช้เวลาเพียงไม่นาน
ปัจจุบันฮัลลา-ซานได้รับการจดทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติของเกาหลีใต้ในปี ค.ศ.1966 และถูกกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติในวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ.1970 ถูกกำหนดให้เป็นเขตสงวนชีวมณฑลของยูเนสโกในปี ค.ศ.2002 และเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของยูเนสโกในปี ค.ศ.2008..